Search for:
  • Home/
  • Games News/
  • “สุรพงษ์” สั่ง 8 หน่วย “คมนาคม” ปรับงบฯ ปี 67 ให้สอดรับนโยบายรัฐบาล

“สุรพงษ์” สั่ง 8 หน่วย “คมนาคม” ปรับงบฯ ปี 67 ให้สอดรับนโยบายรัฐบาล

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้บริหาร 8 หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ได้แก่ กรมการขนส่งทาง (ขร.), การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), บริษัท เอสอาร์ที แอสเสจ จำกัด, บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), กรมการขนส่งทางบก (ขบ.), บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ร่วมประชุมถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 โดยได้มอบให้ทุกหน่วยงานไปทบทวน และปรับคำขอเสนองบฯ ให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานดำเนินการให้ทันกรอบเวลาที่สำนักงบประมาณกำหนด ซึ่งได้มอบให้ 8 หน่วยงานจัดส่งคำขอเสนองบฯ มายังกระทรวงคมนาคมภายในวันที่ 27 ก.ย. 66 เพื่อให้ รมว.คมนาคม และ รมช.คมนาคม พิจารณา ก่อนเสนอสำนักงบประมาณภายในวันที่ 6 ต.ค. 66 ต่อไป อย่างไรก็ตามในส่วนของ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ประมาณเดือน เม.ย. 67 ส่วนตั้งแต่เดือน ต.คคำพูดจาก เกมสล็อตออนไลน์. 66 ซึ่งเดิมจะต้องเริ่มใช้งบประมาณปี 2567 ทางสำนักงบประมาณให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ไปพลางก่อน ส่วนการจัดทำงบประมาณปี 2568 ยังคงให้ยึดตามนโยบายของรัฐบาลเช่นกัน

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมครั้งนี้นอกจากประชุมเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 แล้ว รมช.คมนาคม ยังติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2566 ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ทุกหน่วยงานสามารถเบิกจ่ายงบประมาณปี 2566 ได้ตามเป้าหมาย เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 80-90% พร้อมกันนี้ยังให้แต่ละหน่วยงานรายงานขอบเขตหน้าที่การทำงาน และปัญหาอุปสรรคในการทำงานด้วย อย่างไรก็ตาม รมช.คมนาคม ได้มอบให้ทุกหน่วยงานนำนโยบายของรัฐบาลมาใช้เป็นหลักในการปฏิบัติงาน อาทิ ขบ. ได้สั่งการให้นำระบบดิจิทัลมาใช้ในงานบริการด้านขนส่งเพิ่มมากขึ้น เพื่อความสะดวกในการติดต่อราชการ และลดขั้นตอนในการเดินทางมายังสถานที่ราชการ รวมทั้งให้แก้ปัญหาการให้บริการของรถที่เรียกผ่านแอปพลิเคชั่น และรถในระบบให้มีความสมดุลกัน

ขณะเดียวกันยังได้สั่งการให้ บวท. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ เพื่อรองรับเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ที่จะเริ่มในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ประมาณปลายเดือน ก.ย. นี้ นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ รฟท. เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เพราะจากข้อมูลพบว่า ที่ดินที่ รฟทคำพูดจาก เว็บปั่นสล็อต. มีอยู่ประเมินแล้วมีมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาท แต่สามารถนำไปหารายได้ได้เพียงแค่ 3 พันล้านบาท หรือประมาณ 1% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รฟท. เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอกู้เงินอีก 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง และปัจจุบัน รฟท. มีหนี้สินอยู่ประมาณ 2.7 แสนล้านบาท โดยปี 65 ขาดทุนอยู่ประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ รมช.คมนาคม จะเดินทางไปยัง 8 หน่วยงานที่อยู่ภายใต้กำกับดูแล เพื่อมอบนโยบาย และลงรายละเอียดในการดำเนินนโยบายเรื่องต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มที่ รฟท. เป็นหน่วยงานแรก.